วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

คำศัพท์คอมพิวเตอร์

WiMAX
WiMAX (Worldwide Interoperability for Microwave Access) หรือมาตรฐาน IEEE 802.16 คือเทคโนโลยีไร้สายความเร็วสูงล่าสุด ที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้ ต่อมามีการแตกเวอร์ชั่นเป็น IEEE 802.16a ซึ่งได้รับอนุมัติออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2004 โดยสถาบันวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) มีรัศมีทำการ 30 ไมล์ (ประมาณ 48 กิโลเมตร) และมีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุด 75 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) กว้างกว่า 10 เท่าและเร็วกว่า 30 เท่าเทียบกับ 3G

คุณสมบัติเด่นของ IEEE 802.16a คือความสามารถในการส่งสัญญาณจากจุดเดียวไปยังหลายจุด (Point-to-Multipoint) ได้พร้อมกัน, รองรับการทำงานแบบ Non-Line-of-Sight คือทำงานได้แม้มีสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้หรืออาคาร และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ให้บริการบรอดแบนด์ในการขยายพื้นที่ให้ บริการ มาตรฐาน IEEE 802.16a จะทำงานบนความถี่ย่าน 2-11 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานชนิดอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้

IEEE 802.16a สามารถตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลที่สาย เคเบิลลากไปไม่ถึงได้เป็นอย่า งดี ขณะเดียวกันก็สะดวกสบายและประหยัดสำหรับสำหรับผู้ให้บริการในการขยายเครือ ข่ายที่มีอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องลงทุนขุดถนนเพื่อวางสายเคเบิล นอกจากนี้ IEEE 802.16a ยังได้รับการปรับปรุงในเรื่องคุณภาพในการให้บริการ (QoS) ให้สามารถรองรับได้ทั้งภาพ (Video) และเสียง (Voice) โดยไม่ใช้ทรัพยากรของเครือข่ายมากอย่างเดิม (Low Lantency Network) ส่วนเรื่องซีเคียวริตี้ ได้เพิ่มคุณสมบัติของความเป็นส่วนตัว (Privacy) ซึ่งต้องได้รับอนุญาต (Authentication) ก่อนที่จะเข้าออกเครือข่าย และมีการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ขณะรับส่ง ทำให้การรับส่งข้อมูลบนมาตรฐานตัวนี้มีความปลอดภัยสูง

เวอร์ชั่นต่างๆของ WiMAX ในปัจจุบันมีดังนี้

IEEE 802.16 เป็นมาตรฐานที่ให้ระยะทางการเชื่อมโยง 1.6-4.8 กิโลเมตร เป็นมาตรฐานเดียวที่สนับสนุน LoS (Line of Sight) คือต้องไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างเครื่องรับเครื่องส่ง และรันบนย่านความถี่ 10-16 GHz

IEEE 802.16a เป็นมาตรฐานที่ปรับปรุงจาก IEEE 802.16 เดิม รันบนความถี่ย่าน 2-11 GHz โดยคุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงจากมาตรฐาน 802.16 เดิมคือ การรองรับการทำงานแบบ NLoS (Non-Line-of-Sight) คือแม้มีสิ่งกีดขวางก็ยังทำงานได้ รัศมีทำการ 30 ไมล์ และความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด 75 Mbps นั่นหมายความว่า WiMAX สามารถรองรับบริการเครือข่ายความเร็วสูงระดับ ที 1 (T1-Type) จำนวน 60 ราย และบริการ DSL จำนวนอีกหลายร้อยรายได้พร้อมกันโดยไม่มีปัญหา

IEEE 802.16e เป็นมาตรฐานที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกับอุปกรณ์โม บายล์ เช่น พีดีเอและโน้ตบุ๊ค รัศมีทำการ 1.6-4.8 กิโลเมตร สนับสนุนการเชื่อมต่อในขณะเคลื่อนที่โดยไม่กระทบกับคุณภาพและความเสถียรของ ระบบ

WiMAX Forum คือองค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยบริษัทสื่อสารชั้นนำทั่วโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาและกำหนดมาตรฐานกลางสำหรับมาตรฐาน IEEE 802.16 รวมถึงการทดสอบและออกใบรับรองให้แก่อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.16



PCI Express
เทคโนโลยีใหม่สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อินพุต/เอาต์พุต โดยเฉพาะกราฟิกการ์ด มีแบนด์วิธกว้างกว่าและความเร็วสูงกว่ามาตรฐาน PCI ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

มาตรฐาน PCI จะมีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุดที่ 133 เมกะไบต์ต่อวินาที (MBps) และเป็นการส่งผ่านแบบทิศทางเดียว เทียบกับ 250 MBps ต่อทิศทางของ PCI Express และเป็นการส่งผ่านข้อมูลแบบ 2 ทิศทาง รวมเป็นแบนด์วิธทั้งสิ้น 500MBps

นั่นหมายถึงความเร็วโดยรวมของระบบที่สูงขึ้น และประสิทธิภาพในการใช้งานเครือข่ายกิกะบิตที่สูงขึ้น ซึ่งปกติจะเกิดปัญหาคอขวด ทั้งยังเป็นการปูทางสำหรับเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น HDTV (High-Definition TV) และกราฟิกเทคโนโลยีระดับแอดวานซ์ ด้วย


Phishing
พฤติกรรมการหลอกลวงผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัว ด้วยการอ่อยเหยื่อออนไลน์ จนเป็นที่มาของคำว่า phishing โดยเลียนคำว่า fishing ที่หมายถึง การตกปลา วิธีการหลอกลวงจะเริ่มต้นจากการสุ่มส่งอีเมล์ไปยังสมาชิกของผู้ให้บริการ อินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) หรือบริษัทการเงินที่น่าเชื่อถือ โดยเนื้อหาในอีเมล์จะขอให้ผู้เป็นสมาชิกติดต่อทางบริษัท โดยผ่านทางเว็บเพจที่ระบุไว้ในตอนท้ายของอีเมล์ ซึ่งสุดยอดของกลเม็ดนี้ก็คือการลวงใช้ URL เดียวกันกับเว็บไซต์จริง ๆ ของบริษัทต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้เป็นสมาชิกเว็บไซต์นั้นๆ หลงเชื่อคลิกเข้าไปที่เว็บเพจดังกล่าว โดยจะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่ถูกเลียนแบบให้มีรูปลักษณ์หน้าตาคล้ายคลึง กับเว็บไซต์จริงของทางบริษัทเป็ นอย่างมาก ในหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว จะมีข้อความให้ผู้ที่หลงเชื่อกรอกรายละเอียดต่างๆ ในการเป็นสมาชิกเสีย ใหม่ รวมทั้งรหัสผ่านหรือพาสเวิร์ด และหมายเลขบัตรเครดิตด้วย เท่านี้เหยื่อก็ติดกับแฮคเกอร์เหมือนเป็นปลาน้อยหลงกลนักตกปลา


Clustering
ระบบคลัสเตอร์ หรือคลัสเตอริ่ง หมายถึงการเชื่อมระบบการทำงานของเซิร์ฟเวอร์เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มกำลังและความสามารถในการประมวลผล ซึ่งอาจเทียบเท่าระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์หรือสูงกว่าก็ได้ สำหรับการประมวลผลงานที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะงานด้านวิทยาศาสตร์ ข้อดีคือประหยัดค่าใช้จ่าย คือถูกกว่าเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์จริงๆ แต่ข้อเสียคือยุ่งยาก


Client/Server
วิธีการประมวลผลแบบกระจายวิธีหนึ่ง โดยมีการโต้ตอบกันระหว่างไคลเอ็นต์ซอฟต์แวร์ที่อยู่บนเครื่องของผู้ใช้และ เซิร์ฟเวอร์ซอฟต์แวร์ที่อยู่บนโ ฮสต์คอมพิวเตอร์โฮสต์
คอมพิวเตอร์อาจจะเป็นยูนิกซ์ เมนเฟรมหรือเครื่องประเภทอื่นได้ ไคลเอ็นต์ซอฟต์แวร์จะจัดการด้านการแสดงผลข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ซอฟต์แวร์จทำหน้าที่ของฐานข้อมูลการติดต่อระหว่างซอฟต์แวร์ทั้ง คู่จะกำหนดโดยโปรโตคอลเฉพาะ วิธีการประมวลผลแบบไคลเอ็นต์/เซิร์ฟเวอร์นี้ที่เป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อ เครื่องส่วนบุคคลและเครือข่ายมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น


CCITT
ชื่อย่อขององค์กรมาตรฐานระหว่างประเทศมีชื่อเต็มว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโทรศัพท์และโทรเลขระหว่างชาติ
(International Telephone and Telegraph Consultative Committee) องค์กรนี้มีหน้าที่ในการจัดทำมาตรฐานเช่น X.25 และ X.400 หน่วยงานที่ดูแล CCITT คือ International Telecommunications Union (ITU) ได้เปลี่ยนชื่อ CCITT เป็น ITU-T เรียบร้อยแล้ว


Broadband
สื่อกลางประเภทสายเคเบิลที่สามารถส่งข้อมูลได้หลายช่องทาง (ใช้แถบความถี่หลายความถี่)


Bind Berkeley Internet Domain Software
ไบนด์เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบเบิร์คลีย์ยูนิกซ์ เพื่อให้เนมเซิร์ฟเวอร์
(name server) ใช้ในการทำงานทำงานเกี่ยวกับระบบชื่อโดเมน


Binary file
ไบนารีไฟล์เป็นกลุ่มข้อมูลขนาดหนึ่งไบต์เรียงต่อกัน ข้อมูลเหล่านี้มักไม่มีความหมายในตัวมันเอง ไม่สามารถอ่านได้แบบข้อมูลเท็กซ์ ตัวอย่างเช่นไฟล์ที่เป็นแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะเป็นไบนารีไฟล์ การรับส่งไฟล์ประเภทนี้โดยใช้เอฟทีพีต้องกำหนดประเภทของไฟล์เป็น "bin"หรือ "image"


Baseband
สื่อกลางประเภทสายเคเบิลที่สามารถส่งข้อมูลได้เพียงช่องทางเดียว (ใช้แถบความถี่พื้นฐานความถี่เดียว) อีเธอเน็ตเริ่มแรกถูกออกแบบเป็นสื่อประเภทเบสแบนด์ และยังมีการใช้งานในแบบนี้อยู่อีกมาก (ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีการส่งข้อมูลของอีเธอเน็ตไปในสื่อแบบบรอดแบนด์)


anonymous
การถ่ายโอนแฟ้มโดยไม่ระบุชื่อ
การใช้โปรแกรมในการถ่ายโอนแฟ้มในระบบที่เชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ตในฐานะของ ผู้ใช้งานชั่วคราว เพื่อติดต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ที่เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึง ลงบันทึกเปิด (log on) เพื่อเข้าสู่สารบบ หรือถ่ายโอนแฟ้มจากคอมพิวเตอร์นั้นมายังเครื่องของเรา เมื่อเราลงบันทึกเปิดเข้าไปยังเครื่องบริการนั้นเราควรพิมพ์คำ "anonymous" เป็นชื่อของเราและพิมพ์เลขที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นรหัสผ่าน ในการของความช่วยเหลือในการค้นหาแฟ้มในเครื่องบริการนั้น เราสามารถใช้อาร์คี (Archie),โกเฟอร์ (Gopher) , เวส (WAIS) หรือ เวิล์ดไวด์เว็บ (WWW) ได้


Account
Account บัญชี รูปแบบของการเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือข่ายงาน โดยต้องมีบัญชีชื่อผู้ใช้เฉพาะและรหัสผ่านซึ่งข้อตกลงระหว่างผู้ใช้ กับผู้ให้บริการในข่ายงาน ผู้ใช้ต้องตกลงปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ต่างๆ ในการเข้าถึงข่ายงาน และในบางกรณีต้องมีการจ่ายค่าบริการด้วย


Authoring Tool
เป็นเครื่องมือช่วยทำเอกสาร เป็นซอฟต์แวร์(อาจจะเป็นฮาร์ดแวร์ก็ได้) ที่ช่วยในการจัดทำเอกสารออนไลน์ โดยเฉพาะเอกสารประเภทไฮเปอร์เท็กซ์ หรือมัลติมิเดีย


Asynchronous Transfer Mode (ATM)
เอทีเอ็มเป็นสื่อชนิดใหม่เหมาะสำหรับการสื่อสารข้อมูลบนสายสื่อสารที่มีความ เร็วสูง (เช่นสายไฟเบอร์ออพติก) และมีความสามารถในการทำสวิชชิ่งได้เร็ว เอทีเอ็มจะย้ายข้อมูลขนาด 53 ไบต์ที่เรียกว่า "เซลล์" (ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าขนาดของแพคเก็ตที่ใช้ในอีเธอร์เน็ตมาก) เอทีเอ็มเป็นมาตรฐานการสื่อสารระกับต่ำชนิดแรกที่ใช้งานได้ดีทั้งในเครือ ข่ายท้องถิ่นและเครือข่ายระยะกว้ าง


ASCII file
แอสกี้ไฟล์เป็นไฟล์ที่เข้ารหัสตามมาตรฐาน ASCII (American Standard Code for Information Interchange) มีรหัสอักษรทั้งหมด 128 ตัว คำว่า "flat ASCII file" มักจะใช้เรียกเท็กซ์ไฟล์ที่ไม่มีอักษรควบคุมพิเศษหรือมีข้อมูลแบบไบนารีเลย ในการดาวน์โหลดไฟล์โดยใช้เอพทีพีไฟล์ชนิดเท็กซ์จะหมายถึงแอสกี้ไฟล์


Archie
อาร์ซีเป็นบริการในเครือข่ายที่ช่วยในการค้นหาตำแหน่งของ annonymous FTP ที่มีไฟล์ที่ต้องการ เขียนโดยมหาวิทยาลัยแมคกิล (และปัจจุบันดูแลโดย Bunyip Information Systems) ในรุ่นถัดไป อาร์ซีจะสามารถค้นหาไฟล์ตามบทย่อ ชื่อผู้เขียน รวมทั้งเงื่อนไขอื่นๆได้ และเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการค้นหาทรัพยากรบนอินเตอร์เน็ต


API, Applications Programming Interface
เอพีไอเป็นวิธีการติดต่อเพื่อขอใช้บริการของระบบปฏิบัติการ จากโปรแกรมอื่นที่เขียนขึ้น โดยโปรแกรมเมอร์ ผู้ใช้ทั่วไปไม่จำเป็นต้องทราบวิธีการเหล่านี้ แต่บางครั้งต้องรู้ว่าทีซีพี/ไอพีซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่นั้นมีวิธีการติดต่อ เป็นแบบใดเพื่อเลือกโปรแกรมที่จะมาใช้งานได้ถูกต้อง เช่นถ้าทีซีพี/ไอพีซอฟต์แวร์ที่ใช้มีการติดต่อแบบ (Winsock API) ก็ต้องเลือกโกเฟอร์ไคลเอ็นต์ที่ใช้การติดต่อแบบนี้ด้วยเช่นกัน


Anonymous FTP
เป็นเอฟทีพีเซิร์ฟที่ยอมให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ไปใช้โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีบนเซิร์ฟเวอร์นั้น (แต่ผู้ใช้ต้องใส่ชื่อ
บัญชี "anonymous" เป็นชื่อล็อกอินแทน) มีเซิร์ฟเวอร์บนอินเตอร์เน็ตหลายแห่งที่ให้บริการนี้ ให้ดูที่คำว่า Archie เพิ่มเติม



Address Resolution Protocol (ARP)
เออาร์พีเป็นโปรโตคอลบนอินเตอร์เน็ตที่ให้ทีซีพี/ไอพีทำงานกับอุปกรณ์ และโปรโตคอลมาตรฐาน ที่ระดับต่ำกว่าได้ ARP จะเปลี่ยนหมายเลขไอพีของเครื่องปลายทางที่ส่งมาในอินเตอร์เน็ต ให้เป็นหมายเลขแอดเดรส ของเน็ตเวิร์กการ์ด ในเครื่องนั้นดังเช่นในกรณีที่ทีซีพี/ไอพีบนเครือข่ายอีเธอร์เน็ต การเปลี่ยนแอดเดรสของ ARP จะเกิดการทำงานของทีซีพี/ไอพี ซอฟต์แวร์เองโดยอัติโนมัติ



Acrobat
อโครแบตเป็นชุดของเครื่องมือของบริษัท Adobe Corporation ซึ่งช่วยให้ผู้จัดทำเอกสารแปลงไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบโพสต์สคริปต์ (Postscript) ให้อยู่ในรูปแบบเอกสารที่โอนย้ายได้ (Portable Document Format) รวมทั้งเครื่องมือที่ช่วยในการแสดงเอกสารในรูปแบบนี้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั่วไป ภาษาโพสต์สคริปต์เป็นภาษาที่เรียกได้ว่ามีหลายสำเนียง แต่ละสำเนียงก็มีความแตกต่างกันและใช้เฉพาะกับเครื่องพิมพ์รุ่นใดรุ่นหนึ่ง ทำให้เกิดปัญหาในการส่งเอกสารรูปแบบโพสต์สคริปต์ระหว่างเครื่อง อโครแบตช่วยแก้ปัญหาการส่งข้ามเครื่องและยังสามารถแสดงเอกสารบนหน้าจอได้โดย ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ออกมา


ACK Acknowledgment
แอคหรือการตอบรับ เป็นส่วนหนึ่งของโปรโตคอลสื่อสารข้อมูลการได้รับ ACK หมายความว่าข่าวสารที่ส่งออกไปได้รับแล้วเรียบร้อย หรือหมายความว่าตกลงตามข้อเสนอที่เสนอไป ตรงข้ามกับ NAK


twisted pair
twisted pair เป็นสายทองแดงแบบดั้งเดิมที่เชื่อมต่อบ้านและบริษัทต่าง ๆ กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เพื่อลด cross talk หรือการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างคู่สาย จะใช้สายทองแดงหุ้มฉนวนพันกันเป็นเกลียว แต่ละการเชื่อมต่อบนสาย twisted pair ต้องการทั้ง 2 สาย เนื่องจากโทรศัพท์บางแบบหรือที่ตั้งโต๊ะ บางที่ต้องการเชื่อมแบบหลายการเชื่อมต่อ สาย twisted pair ในบางครั้งจึงมี 2 คู่ หรือมากกว่าภายในสายเคเบิลเดียว สำหรับที่ตั้งบริษัทบางแห่ง สาย twisted pair มีการหุ้มเพื่อทำหน้าที่เป็นสายดิน ซึ่งเรียกว่า shield twisted pair (STP) สายที่ใช้ตามบ้านทั่วไปคือ unshielded twisted pair (UTP)

twisted pair ในปัจจุบันได้รับการติดตั้งแบบ 2 คู่ ตามบ้าน โดยคู่ที่เพิ่มทำให้สามารถเพิ่มสายได้เมื่อต้องการ

twisted pair จะมีรหัสสีของแต่ละคู่ไม่ซ้ำ สำหรับแบบหลายคู่ ในการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น อะนาล็อก, ดิจิตอล และ Ethernet ต้องการคู่ที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่า Twisted pair มักจะเกี่ยวข้องกับการใช้งานในบ้าน แต่สาย twisted pair เกรดสูงมักจะใช้ สำหรับการวางสายแนวนอนในการติดตั้ง LAN เนื่องจากถูกว่า coaxial cable


Tweak UI
Tweak UI เป็นซอฟต์แวร์ utility ที่ให้ Windows9x, Windows NT และ Windows 2000 ใช้ปรับปรุง desk top user interface และคุณลักษณะของระบบอื่นที่เชื่อมต่อ การใช้ Tweak UI ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนความเร็วเมนู, การทำภาพเคลื่อนไหวของ Windows และจำนวนของส่วนใช้งานเดียวกัน Microsoft Internet Explorer ซึ่ง Tweak UI ยอมให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่า รวมถึงบางอย่างในระบบ registry เช่น ผู้ใช้สามารถเริ่มความเร็วในการ startup โดยลดความถี่การทำงานของ scandisk

Microsoft ได้รวม Tweak UI เป็นหนึ่งของหลาย “Power Toys” ที่สามารถเป็นตัวเลือกในการติดตั้งผู้ใช้ จะได้รับคำแนะนำให้ทำการสำรอง registry เสมอ (เช่น การสำเนาไฟล์ใหม่ด้วยชื่ออื่น) ก่อนการทำอย่างอื่นในการปรับปรุง


tunneling
tunneling มีความสัมพันธ์กับอินเตอร์เน็ต โดยใช้อินเตอร์เน็ต เป็นส่วนของเครือข่ายความปลอดภัยส่วนตัว “tunnel” เป็นเส้นทางเฉพาะที่ให้ข่าวสาร หรือไฟล์ของบริษัทเดินทางผ่านอินเตอร์เน็ตโปรโตคอล หรือกลุ่มของกฏการสื่อสารที่เรียกว่า Point-to-Point Tunneling Protocol ได้รับการเสนอขึ้นในการสร้าง virtual private network โดยผ่าน “tunnel” บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจจะไม่จำเป็นต้องมี lease line ของตัวเอง สำหรับการสื่อสารในพื้นที่กว้างแต่สามารถใช้เครือข่ายสาธารณะได้ PPTP สนับสนุนโดย Microsoft และบริษัทอื่น และ Layer 2 Forwarding ซึ่งเสนอโดย CISCO system เป็นข้อเสนอหลัก สำหรับมาตรฐานใหม่ของ Internet Engineering Task Force (IETF) โดย PPTP ซึ่งเป็นส่วนขยายของโปรโตคอล Point-to-Point Protocol ทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สนับสนุน PPP client จะสามารถใช้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตอิสระ ในการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัย กับเครื่องแม่ข่ายของบริษัทในทุกที่

true color
true color เป็นข้อกำหนดของสีของ pixel บนจอภาพที่ใช้ค่า 24-บิต ซึ่งยินยอมให้ใช้สีได้ถึง 16,777,216 สี จอภาพส่วนใหญ่สนับสนุนเฉพาะค่าสี 8-บิต ซึ่งยอมให้มีสีได้ 256 สี จำนวนของบิตใช้ในการกำหนดสี คือ bit-depth บางครั้ง true color รู้จักในชื่อ สี 24-บิต จอภาพสีบางระบบให้สี 32-บิต โดยบิตที่เพิ่ม เรียกว่า alpha channel ใช้สำหรับการควบคุมและ special effect


transistor
transistor (ทรานซิสเตอร์) ประดิษฐ์โดยนักวิทยาศาสตร์ 3 คน ใน Bell Laboratories ในปี 1947 ได้เข้าแทนที่ หลอดสูญญากาศในฐานะ ตัวควบคุมสัญญาณอิเลคโทนิกส์ ทรานซิสเตอร์ควบคุมกระแส หรือความต่างศักย์และทำหน้าที่เหมือน สวิท์ชหรือ gate สำหรับสัญญาณอีเลคโทนิคส์ ทรานซิสเตอร์ประกอบด้วย 3 ชั้น ของวัตถุกึ่งตัวนำ แต่ละชั้นสามารถนำกระแสไฟฟ้า สารกึ่งตัวนำเป็นวัสดุ เช่น เยอรมันเนียม และซิลิคอน ที่การนำไฟฟ้าเป็นแบบ “semi-enthusiastic” ซึ่งมีลักษณะระหว่างตัวนำแท้ เช่น ทองแดง กับฉนวน เช่น พลาสติก

วัสดุกึ่งตัวนำมีคุณสมบัติพิเศษ โดยกระบวนการทางเคมีเรียกว่า doping โดยผลลัพธ์ของ doping ในวัสดุที่เป็น ทั้งการเพิ่มอิเล็กตรอนพิเศษให้กับวัสดุ (ซึ่งเรียกว่า N-type สำหรับการเพิ่มประจุลบให้ตัวนำ) หรือ สร้าง “โพรง” ในวัสดุโครงสร้างผนึก (ซึ่งเรียกว่า p-type เพราะมีผลเป็นการเพิ่มประจุบวกให้ตัวนำ) ทรานซิสเตอร์โครงสร้าง 3 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นวัสดุกึ่งตัวนำ N-type อยู่ระหว่าง ชั้น P-type (PNP) หรือ ชั้น P-type 1 ชั้น อยู่ระหว่างชั้น N-type (NPN)

เมื่อกระแสหรือความต่างศักย์เปลี่ยนใน 1 ชั้นของชั้นนอกวัสดุกึ่งตัวนำ จะมีผลกระทบต่อกระแส หรือความต่างศักย์อย่างมากกับชั้นใน 1 ชั้น มีผลในการเปิดหรือปิด gate ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ ใช้วงจรทำด้วยเทคโนโลยี Complementary Metal Oxide Semiconductor (CMOS) ซึ่ง COMS ใช้ทรานซิสเตอร์คู่ต่อ gate (ตัวหนึ่งคือ N-type อีกตัวหนึ่งคือ p-type) เมื่อทรานซิสเตอร์ตัวหนึ่งดำรงสถานะทางตรรกะจะมีความต้องการทั้งหมดไม่มี พลังงาน

ทรานซิสเตอร์เป็นส่วนประกอบพื้นฐานในวงจรรวม (Integrated Circuit หรือ IC) ซึ่งประกอบด้วยทรานซิสเตอร์จำนวนมาก ที่ต่อเชื่อมภายในเป็นวงจร และเป็นไมโครชิป หรือชิป ชิ้นเดียว



topology
topology เป็นการอธิบายชนิดของตำแหน่งในความหมายด้านผังทางกายภาค ในความหมายของเครือข่ายการสื่อสาร topology เป็นการอธิบายภาพของคอนฟิกหรือการจัดการของระบบเครือข่ายรวมถึง mode และสายเชื่อม



Token ring
เครือข่ายแบบ token ring เป็นระบบเครือข่ายแบบ LAN ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อด้วย topology แบบ หรือ star และระบบเลขฐานสอง (หรือ token) เป็นแบบแผนการส่งที่ใช้ในการป้องกันการชนกันของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ที่ต้องการส่ง message ในเวลาเดียวกัน โปรโตคอลของ token ring ได้รับการใช้เป็นอันดับที่สองในระบบ LAN รองจาก Ethernet โปรโตคอล โดย IBM token ring ได้นำไปสู่มาตรฐานของ IEEE 802.5 ซึ่งโปรโตคอลทั้งสองได้รับการใช้และคล้ายกันมาก การส่งข้อมูลของเทคโนโลยี IEEE 802.5 token ring ให้อัตราการส่งข้อมูล 4 –16 Mbps ลักษณะการทำงานโดยย่อ

ใช้การส่ง information frame เปล่า ไปรอบ ring อย่างต่อเนื่อง

เมื่อมีคอมพิวเตอร์ตอบการส่ง message จะเพิ่ม token เข้าไปใน frame เปล่า (ซึ่งบิตของ token ในเฟรมจะเปลี่ยนจาก “0” เป็น “1”) และแทรก message และจุดหมายปลายทางใน frame

เมื่อ frame ได้รับการตรวจสอบโดยแต่ละ เวิร์กสเตชั่น โดยเวิร์กสเตชั่นที่เป็นปลายทางของ message จะก็อบปี้ message จาก frame แล้วเปลี่ยน token กลับเป็น 0

เมื่อ frame กลับไปที่จุดเริ่มต้น และเห็นว่า token เปลี่ยนเป็น 0 แล้ว ซึ่งแสดงว่ามีการรับ message ไปแล้ว จากนั้นจะมีการลบ message จาก frame

frame ดังกล่าวจะหมุนเวียนเป็น frame เปล่าต่อไป พร้อมที่จะรับ message จากอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ใหม่



Top-level domain (TLD)
top-level domain เป็นส่วนของ Uniform Resource Locator (URL) หรือ IP address ที่ใช้ระบุประเภททั่วไปของอินเตอร์เน็ต domain เช่น “com” สำหรับ “เชิงพาณิชย์” edu สำหรับ “สถาบันการศึกษา”



thin client
“thin client” เป็นคอมพิวเตอร์ราคาต่ำแบบการจัดการส่วนกลาง ไม่มีตัวเล่น CD-RAM, ดิสเกต ไดร์ฟ และ expansion slot คำนี้มาจากความจริงที่คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กในเครือข่าย มีแนวโน้มที่จะเป็นลูกข่าย และไม่ใช่แม่ข่าย เนื่องจากแนวคิดการจำกัด ความสามารถของคอมพิวเตอร์เหล่านี้ เฉพาะโปรแกรมประยุกต์สำคัญ แนวโน้มการซื้อและยังคงคำว่า “thin” ในความหมายของการประยุกต์ลูกข่าย คำว่า “thin client” ดูเหมือนมีความหมายเหมือน Net PC และ Network computer ซึ่งมีแนวคิดที่แตกต่างกันบางส่วน Net PC อยู่บนพื้นฐานของไมโครโพรเซสเซอร์ ของ Intel และ ซอฟต์แวร์ Windows (Intel เป็นผู้สร้างข้อกำหนดของ Net PC) Network computer เป็นแนวคิดที่สนับสนุน โดย Oracle และ Sun Microsystems ซึ่งอาจจะไม่ใช่ไมโครโพรเซสเซอร์ ของ Intel และใช้ระบบปฏิบัติการแบบ JAVA การเพิ่มจำนวนของ thin client ตามสถานที่ทำงานและสถานศึกษา ในปัจจุบัน สะท้อนว่าบริษัท และสถาบันต้องการคอมพิวเตอร์ราคาถูก สำหรับการใช้อินเตอร์เน็ต


Text
ในเทคโนโลยีสารสนเทศ text (ข้อความ) คือ ชุดของตัวอักษรที่คนอ่านได้ และสามารถเข้ารหัสเป็น รูปแบบคอมพิวเตอร์อ่านได้ เช่น ASCII ตามปกติ text จะแยกจากข้อมูลเข้ารหัสที่ไม่ใช่ตัวอักษร เช่น ภาพกราฟฟิก ในรูปแบบของ bitmap และรหัสโปรแกรม ซึ่งบางครั้งอ้างถึงในฐานะ “binary” (แต่จะอยู่ในรูปแบบที่คอมพิวเตอร์อ่านได้)


terminal server
โดยทั่วไปในเทคโนโลยีสารสนเทศ terminal server เป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือเครื่องแม่ข่ายที่ให้ terminal (เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, เครื่องพิมพ์และอุปกรณ์อื่น ๆ ) ต่อเชื่อมกับเครือข่าย LAN หรือ WAN โดย terminal ต่อเชื่อมกับ terminal server จากพอร์ตอนุกรม RS-232C หรือ RS-423 อีกด้านหนึ่งของ terminal server ต่อผ่านอินเตอร์เฟซเครือข่าย (network interface cards หรือ NIC) ไปยังเครือข่าย LAN หรือผ่านโมเด็มเพื่อต่อเข้ากับเครือข่าย WAN หรือ เครือข่าย X.25 หรือ gateway 3270 (ความแตกต่าง ทำให้ terminal server มีชนิดการติดต่อที่แตกต่างกัน บางครั้งสามารถจัดลำดับความแตกต่างของการคอนฟิก ตามความต้องการของลูกค้า) การใช้ terminal server หมายถึงแต่ละ terminal ไม่ต้องการการ์ดอินเตอร์เฟซ หรือโมเด็มของตัวเอง การเชื่อมต่อกับทรัพยากรภายใน terminal server ซึ่งปกติมีการใช้ร่วมกันโดย terminal ติดต่อ

บาง terminal server สามารถใช้งานร่วมได้ถึง 128 terminal โดย terminal สามารถเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, เครื่องพิมพ์ emulate 3270 หรืออุปกรณ์ที่มีอินเตอเฟซ RS-232/423 ในบาง terminal server สามารถใช้กับ terminal แบบ TCP/IP สำหรับการติดต่อแบบ Telnet ไปที่ host, LAT ไปยัง DEC host หรือ TN 3270 สำหรับการติดต่อแบบ Telnet ไปยัง IBM host ด้วยการประยุกต์ 3270 ในบาง terminal server ให้ผู้ใช้ terminal มีหลาย host ในการติดต่อกับระบบปฏิบัติการของ host ที่แตกต่างกัน

คำว่า communication server ในบางครั้งใช้แทนที่ terminal server



terminal
1) ในระบบสื่อสาร terminal เป็นอุปกรณ์ที่จุดสิ้นสุดของปลายทางในการส่งสัญญาณในทางปฏิบัติ terminal ได้รับไปเฉพาะส่วนขยาย จุดปลายขอเครือข่าย ไม่ใช่อุปกรณ์ส่วนกลางหรือกิ่งกลาง

2) ในระบบโทรศัพท์ คำว่า Data terminal Equipment ใช้อธิบายคอมพิวเตอร์ปลายทางของ DTE -to- DCE (Data Communications Equipment) ในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และโมเด็ม

3) ในคอมพิวเตอร์ terminal (บางครั้งเรียกว่า “dumb terminal”) เป็นอุปกรณ์ของผู้ใช้ (ปกติประกอบด้วยจอภาพและคีย์บอร์ด) ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องเมนเฟรม หรือเครื่องแม่ข่าย และเป็นที่มาของแนวคิด network computer

4) คำนี้ในบางครั้งหมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ต่อเข้ากับระบบเครือข่าย


Terabit
ในการวัดความเร็วการส่งข้อมูล terabit คือ 1 ล้านล้านของเลขฐานสอง คือ 1,000,000,000,000 บิต terabit ใช้ในการวัดจำนวนรวมของข้อมูลที่ส่งผ่านในหนึ่งวินาทีระหว่าง จุด 2 จุด หรือภายในอุปกรณ์เครือข่าย เช่น ระบบเครือข่ายที่สวิชต์ส่งผ่านแพ็คเกตที่เข้ามาไปยังอุปกรณ์ หรือส่งออกที่ความเร็ว 1 terabit ต่อวินาที ซึ่ง terabit ต่อวินาที สามารถย่อเป็น Tbps ถึงแม้ว่า บิต (bit) เป็นหน่วยของระบบเลขฐานสอง แต่บิตในระบบการสื่อสารนับด้วยระบบเลขฐานสิบ แตกต่างจากสถาปัตยกรรมของคอมพิวเตอร์ และขอบเขตตำแหน่งของหน่วยความจำเป็นไบต์ (Byte) เป็นเลขยกกำลังของ 2



Telnet
Telnet เป็นวิธีการติดต่อของผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ที่ผู้ติดต่อได้รับอนุญาตในทางเทคนิค telnet เป็นคำสั่งของผู้ใช้ภายใต้โปรโตคอล TCP/IP เพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในระยะไกล โปรโตคอลของเว็บ หรือ Hypertext Transfer Protocol และ File Transfer Protocol ยินยอมให้ผู้ใช้เรียกไฟล์ที่เจาะจงจากคอมพิวเตอร์ระยะไกล แต่ไม่ได้ logon ในฐานะผู้ใช้ของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น โดยการใช้ telnet ผู้ใช้สามารถ logon ในฐานะผู้ใช้ธรรมดาที่มีสิทธิในการเจาะจงโปรแกรมประยุกต์ และข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์

คำสั่งของ telnet มีลักษณะดังนี้
Telnet the libraryat.harvard.edu เมื่อส่งคำสั่งนี้ไปแล้ว จะมีการ logon ด้วย user id และป้อนรหัสผ่าน ถ้ายอมรับก็สามารถใช้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้

telnet ได้รับการใช้งานโดยผู้พัฒนาโปรแกรม และผู้ต้องการใช้โปรแกรมประยุกต์เฉพาะ หรือข้อมูลที่อยู่ในเครื่อง host ที่เจาะจง



internet telephony (telephony)
telephony เป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการส่งผ่านด้านอีเลคโทรนิคส์ของเสียง fax และสารสนเทศอื่น ระหว่างผู้ใช้ที่ใช้ระบบที่เกี่ยวของกับโทรศัพท์ อุปกรณ์ที่ประกอบด้วยลำโพงหรือตัวส่งกับเครื่องรับ จากการเข้ามาถึงคอมพิวเตอร์ และการส่งสารสนเทศดิจิตอล ผ่านระบบโทรศัพท์ และการใช้วิทยุในการส่งสัญญาณโทรศัพท์ การแยกระหว่างโทรศัพท์และโทรคมนาคม ทำให้ยากที่จะพบ อย่างไรก็ตาม telephony หมายถึง เสียงหรือการพูด และการได้ยินสารสนเทศ ซึ่งมักจะเป็นการติดต่อแบบ point – to – point รวมถึงการติดต่อเป็นแบบชั่วคราว

internet telephony เป็นการใช้อินเตอร์เน็ต แทนที่การใช้โครงสร้างพื้นฐานของโทรศัพท์แบบดั้งเดิม และโครงสร้างอัตราในการแลกเปลี่ยน หรือสารสนเทศทางโทรศัพท์อื่น เนื่องจกการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตทำให้โทรศัพท์เฉพาะพื้นที่ หรือทางไกล ถูกกว่าการโทรศัพท์แบบดั้งเดิม

บนอินเตอร์เน็ต มีบริการใหม่ 3 แบบ ในปัจจุบัน หรืออนาคตอันใกล้

ความสามารถในการสร้างการโทรศัพท์ปกติ
ความสามารถในการส่ง fax ด้วยราคาต่ำ ผ่าน gateway บนอินเตอร์เน็ตในเมืองใหม่
ความสามารถในการฝาก voice mail สำหรับหมายเลขที่เรียก
บางบริษัท ได้สร้างผลิตภัณฑ์ หรือวางแผน ที่ให้ความสามารถเหล่านี้ได้แก่ IDT corporation (Net 2 phon), netspeak, NetXCharge, Rockwell International, VocalTec และ VoxSpeak แผนการใช้เหล่านี้สำหรับการบริการ internet phone เป็นการเรียกไปยังผู้ที่เป็นลูกค้าบน web site ปัจจุบันสามารถเพิ่มความสามารถโทรศัทพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเพิ่ม telephone board ในราคาต่ำกว่า 300 เหรียญสหรัฐ ที่ได้รวมหน้าที่ของโมเด็ม sound board, ลำโพง และระบบ voice mail

Telephony API (application program interface) เป็นการให้จาก Microsoft และ Intel ที่ยินยอมให้โปรแกรมประยุกต์ ลูกข่าย Windows ในการเข้าถึงการบริการเสียงบนเครื่องแม่ข่ายและ การติดต่อภายใน เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และระบบโทรศัพท์



Time-Division Multiplexing (TDM)
TDM (time-division multiplexing) เป็นแบบแผนในการรวมสัญญาณ สำหรับการส่งผ่านบนช่องสัญญาณ หรือสายการสื่อสารเดี่ยว แต่ละสัญญาณจะถูกแยกเป็นหลาย segment ขนาดเล็ก
วงจรรวมสัญญาณ ที่ปลายด้านต้นทางของการสื่อสารเชื่อมโยง คือ Multiplexer ซึ่งจะยอมรับข้อมูลนำเข้าจากผู้ใช้อิสระ แล้วแยกแต่ละสัญญาณเป็น segment จากนั้นกำหนด segment ให้เป็นสัญญาณ composite ด้วยลำดับแบบหมุนวนและซ้ำ สัญญาณ composite ที่เก็บข้อมูลทั้งหมดจากผู้ใช้ที่ demultiplexer และเส้นทางที่ไปยังผู้ใช้ปลายทาง วงจรการสื่อสาร 2 ทาง ต้องการ multiplexer/ demultiplexer ที่จุดปลายแต่ละจุด

ถ้ามีสัญญาณจำนวนมาก ต้องส่งผ่านสายเดี่ยวระยะไกล ความระมัดระวังด้านวิศวกรรมมีความจำเป็น เพื่อทำให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้ตามปกติ ประโยชน์ของ TDM คือ ความยืดหยุ่น โดยมีแบบแผนที่ยอมให้ สำหรับความหลากหลายในจำนวนของสัญญาณ ที่ส่งผ่านสาย และปรับช่องเวลาเสมอ เพื่อทำให้การใช้มีความเหมาะสมกับ bandwidth ที่มี อินเตอร์เน็ตเป็นตัวอย่างที่ดี ของเครือข่ายการสื่อสาร ที่ปริมาณของ traffic สามารถเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ในบางระบบแบบแผนที่ต่างกันคือ frequency-division multiplexing มีความเหมาะสม


TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
TCP/IP เป็นระบบโปรโตคอล การสื่อสารพื้นฐานของระบบอินเตอร์เน็ต มันสามารถใช้เป็น โปรโตคอลในการสื่อสารภายใน เครือข่ายส่วนบุคคล เรียกว่า intranet และ extranet เมื่อมีการติดต่อโดยตรงกับ internet เครื่องคอมพิวเตอร์จะได้รับการคัดลอกโปรแกรม TCP/IP เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์อื่น ๆ เพื่อทำให้ส่งข้อความขอรับสารสนเทศ
TCP/IP เป็นโปรแกรม 2 เลเยอร์ TCP (Transmission Control Protocol) เป็นเลเยอร์ที่สูงกว่า ทำหน้าที่จัดการแยกข้อความหรือไฟล์แลปรกอบให้เหมือนเดิม IP (Internet Protocol) เป็นเลเยอร์ที่ต่ำกว่า ทำหน้าที่จัดการส่วนของที่อยู่ของแต่ละชุดข้อมูล เพื่อทำให้มีปลายทางที่ถูกต้อง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Gateway บนเครือข่ายจะตรวจที่อยู่นี้เพื่อหาจุดหมายในการส่งข้อความ ชุดข้อมูลอาจจะใช้เส้นทางไปยังปลายทางต่างกัน แต่ทั้งหมดจะได้รับการประกอบใหม่ที่ปลายทาง

TCP/IP ใช้ในแบบ client/server ในการสื่อสาร (ระหว่างคอมพิวเตอร์) ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (client) เป็นผู้ขอและการบริการได้รับจากคอมพิวเตอร์เครื่องแม่ข่ายในระบบเครือข่าย การสื่อสารของ TCP/IP เป็นแบบจุดต่อจุด (point -to- point) หมายความว่าการสื่อสารแต่ละครั้งเกิดจากจุดหนึ่ง (เครื่อง host เครื่องหนึ่ง) ไปยังจุดอื่นหรือเครื่อง host เครื่องอื่นในเครือข่าย TCP/IP และโปรแกรมประยุกต์ระดับสูงอื่น ที่ใช้ TCP/IP สามารถเรียกว่า “Stateless” เพราะการขอแต่ละ client ได้รับการพิจารณาเป็นการขอใหม่โดยไม่สัมพันธ์กับการขอเดิม (แต่แตกต่างจากการสนทนาทางโทรศัพท์) การที่เป็นพาร์ทของเครือข่ายอิสระแบบ “Stateless” ดังนั้นทุกคนสามารถใช้พาร์ทได้อย่างต่อเนื่อง (หมายเหตุ เลเยอร์ของ TCP จะไม่ “Stateless” ถ้ายังทำการส่งข้อความใดข้อความหนึ่ง จะทำการส่งจนกระทั่งชุดข้อมูลนั้นได้รับครบชุด)

ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต จำนวนมากคุ้นเคยกับการประยุกต์เลเยอร์ระดับสูง โดยใช้ TCP/IP เพื่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ท ทั้งนี้รวมถึง World Wide Web’s Hypertext Transfer Protocol (HTTP), File Transfer Protocol (FTP) ซึ่งในการเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ในระยะไกล และ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) Protocol เหล่านี้ จะเป็นชุดเดียวกับ TCP/IP ในลักษณะ “Suite” เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มักจะเข้าสู่อินเตอร์เน็ต ผ่าน Serial Line Internet Protocol (SLIP) หรือ Point-To-Point Protocol (PPP) โปรโตคอล แบบนี้จะควบคุมชุดข้อมูลของ IP ดังนั้น จึงสามารถใช้ส่งผ่านการติดต่อด้วยสายโทรศัพท์ ผ่านโมเด็ม Protocol ที่สัมพันธ์กับ TCP/IP ได้แก่ User Datagram Protocol (UDP) สำหรับใช้แทน TCP/IP ในกรณีพิเศษ ส่วนโปรโตคอลอื่นที่ใช้โดยเครื่อง host ของเครือข่ายสำหรับการแลกเปลี่ยนสารสนเทศกับ router ได้แก่ Internet Control Message Protocol (ICMP) Interior Gateway Protocol (IGP) Exterior Gateway Protocol (EGP) และ Border Gateway Protocol (BGP)



Transmission Control Protocol (TCP)
TCP (Transmission Control Protocol) ใช้ Internet Protocol (IP) เพื่อส่งข้อมูลในรูปแบบของข่าวสาร ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในอินเตอร์เน็ต โดย IP ดูแลการควบคุมการส่งข้อมูลที่แท้จริง TCP ดูแลการรักษาเส้นทางของหน่วยข้อมูลแต่ละชุด (เรียกว่า แพ็คเกต - Packets) ซึ่งข้อความจะถูกแบ่งออก เพื่อการใช้ประสิทธิภาพของเส้นทางบนอินเตอร์เน็ต เช่น เมื่อมีการส่งไฟล์ HTML ออกจาก web server ไปที่จุดหมายปลายทาง โปรแกรมเลเยอร์ของ TCP จะแบ่งไฟล์นั้นเป็นหนึ่งชุดหรือมากกว่า หมายเลขของชุดข้อมูลแล้วส่งต่อข้อมูลแต่ละชุดไปที่โปรแกรมเลเยอร์ของ IP ถึงแม้ว่าแต่ละชุดข้อมูลมีปลายทางที่ IP address เดียว แต่ชุดข้อมูลอาจจะเลือกเส้นทางที่ต่างกันบนเครือข่าย เพื่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง TCP จะประกอบชุดข้อมูลแต่ละชุดให้ครบแล้วจึงประกอบข้อมูลเป็นไฟล์เดียว
TCP เป็น protocol ที่รู้จักในลักษณะ connection-oriented protocol หมายถึง การติดต่อจะถูกสร้างขึ้น และรักษาการแลกเปลี่ยน เช่น การส่งข้อความระหว่างโปรแกรมประยุกต์ของแต่ละด้าน TCP รับผิดชอบสำหรับในการจัดแบ่งข้อความเป็นชุดข้อมูล และประกอบชุดข้อมูลให้เป็นข้อความเหมือนเดิม เมื่อไปถึงปลายทาง DOS แบบจำลอง OSI (Open Systems Interconnection Communication model) TCP อยู่ในเลเยอร์ที่ 4 คือ เลเยอร์การส่ง (Transport Layer)


Tool Command Language
Tcl (Tool command Language) เป็นภาษาตัวแปลสคริปต์ พัฒนาโดย Dr. John Ousterhout ที่ University of California, Barkeley ในปัจจุบันการพัฒนาและบำรุงรักษาด้วย Scripts ซึ่ง Tcl เปรียบเทียบได้กับ

Netscape, Java Script
Microsoft, Visual Basic
UNIX-derived, Practical Extraction and Reporting Language
IBM, Restructured Extended Executor
โดยทั่วไป ภาษาสคริปต์ เขียนได้ง่ายและเร็วกว่าภาษาโครงสร้าง และภาษาคอมไพล์ เช่น C และ C++ ภาษาสคริปต์บางครั้งพิจารณาเป็น “กาว” ของภาษาที่ดี สำหรับผูกโปรแกรมคอมไพล์หลายโปรแกรมร่วมกัน หรือโปรแกรมใช้งานเดี่ยว จะยินยอมให้สร้างได้ง่ายแต่ความสามารถสูงมาก

Tcl มีโปรแกรมในกลุ่ม คือ Toolkit ใช้ช่วยสร้างการอินเตอร์เฟซแบบ graphical user interface ด้วย Tcl


T-Carrier System
T-Carrier System ได้รับการแนะนำโดย Bell System ในสหรัฐ เมื่อทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นระบบแรกที่ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการส่งผ่านเสียงแบบดิจิตอล อัตราการส่งเริ่มแรก (1.544 Mbps) ในสาย T-1 มีการใช้โดยทั่วไปในปัจจุบันโดยผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในการติดต่อกับ อินเตอร์เน็ต ระดับอื่น คือ สาย T-3 มีอัตราการส่ง 44.736 Mbps ซึ่งมีการใช้ โดยทั่วไปจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต การติดตั้งอีกแบบที่มีใช้กันคือ fractional T-1 ซึ่งเป็นการเช่าบางช่องสัญญาณจาก 24 ช่องสัญญาณในสาย T-1

T-Carrier System เป็นระบบดิจิตอล ที่ใช้ pulse code modulation และ Time – Division Multiplex ระบบนี้ใช้ 4 สาย และให้ความสามารถแบบ duplex (2 สายสำหรับการรับและ 2 สาย สำหรับการส่งในเวลาเดียวกัน) การส่งข้อมูลในสาย T-1 ประกอบด้วย 24 ช่องสัญญาณ ขนาด 64 Kbps แบบ multiplex (การใช้มาตรฐาน 64 Kbps ต่อช่องสัญญาณอยู่บนพื้นฐานของขนาด bandwidth สำหรับการสนทนาทางโทรพิมพ์) ส่วนระบบ 4 สาย มีจุดเริ่มต้นจากสายแบบ twisted pair แต่ในปัจจุบันรวมถึงสายแบบ Coaxial, Optical fiber, digital microwave และตัวกลางชนิดอื่น ในระบบ T-1 สัญญาณเสียงมีการสุ่ม 8000 ครั้งต่อวินาที แต่ละครั้งจะแปลงเป็นสัญญาดิจิตอล ขนาด 8 บิต ใน 24 ช่องสัญญาณสามารถแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอล ได้ 192 bit frame ในการส่ง 8000 ครั้งต่อวินาที frame แต่ละชุดแยกจากกันด้วยบิตเดี่ยว ทำให้ทั้งหมด 193 bit block เมื่อนำ 192 bit frame คูณด้วย 8000 บวกอีก 8000 บิต ทำให้อัตราข้อมูลเป็น 1.544 Mbps


Tag
Tag เป็นคำทั่วไปสำหรับภาษาแบบ element descriptor กลุ่มของ Tag สำหรับเอกสาร หรือหน่วย ของสารสนเทศในบางครั้ง อ้างถึง markup คำสั่งนี้ในยุคก่อนการใช้คอมพิวเตอร์ เมื่อผู้เขียนและผู้ตรวจทาน ทำเครื่องหมายบนเอกสารด้วยสัญลักษณ์ ตัวอย่างเช่น การสร้างเว็บเพจด้วยภาษา Hypertext Markup Language (HTML)


T1
T1 Carrier เป็นสายส่งแบบดิจิตอลที่ใช้กันทั่วไปในสหรัฐ แคนนาดา และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการส่ง 24 สัญญาณแบบ pulse code modulation โดยใช้ Time-Division Multiplexing ที่อัตราการส่งรวม 1.544 megabit ต่อวินาที สาย T1 ใช้สายทองแดงและพื้นที่ภายในเมืองหรือระหว่างเมืองขนาดใหญ่ T1 Outstate System ได้รับการพัฒนาให้ใช้ระหว่างเมืองเล็ก ๆ


Syntax
Syntax ในไวยากรณ์, โครงสร้าง หรือลำดับของส่วนประกอบ ในประโยคของภาษา Syntax การประยุกต์กับภาษาคอมพิวเตอร์ เหมือนกับภาษาธรรมชาติ ในภาษาคอมพิวเตอร์ ไวยากรณ์สามารถมีความแข็งตัว เช่น ในภาษา assembler หรือความแข็งตัวน้อย ในภาษาที่ใช้ “keyword” พารามิเตอร์ซึ่งสามารถระบุในลำดับต่าง ๆ


Synchronous Optical Network (SONET)
SONET เป็นมาตรฐานสหรัฐ สำหรับการส่งข้อมูลแบบ synchronous กับตัวกลาง optical มาตรฐานสากล เทียบเท่ากับ SONET คือ Synchronous Digital Hierarchy (SDH) โดยมีการทำให้มั่นใจว่ามาตรฐาน สำหรับเครือข่ายดิจิตอลสามารถติดต่อภายในแบบสากล และระบบการส่งผ่านแบบดั้งเดิม สามารถได้รับประโยชน์จากตัวกลาง optical

SONET ให้มาตรฐานสำหรับจำนวนของ line rate ได้ถึงอัตราสูงสุด 9.953 gigabit ต่อวินาที (Gbps) และมีความเป็นไปได้ในเพิ่ม line rate เป็น 20 Gbps SONET ได้รับการพิจารณาเป็นพื้นฐานของเลเยอร์ระดับ physical layor ของ broadband ISDN (Broad bard Integrated Service Digital Network)

asynchronous transfer mode (ATM) ทำงานบนชั้นบนสุดของและชั้นบนสุดของเทคโนโลยีอื่น SONET กำหนดพื้นฐานของ 51.84 Mbps และกลุ่มของอัตราพื้นฐานหลายอัตรา รู้จักในชื่อ “Optical Carrier levels (OCx)”

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SONET ที่ : Nortel



switch
ในโทรคมนาคม, switch เป็นอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้เลือกเส้นทาง หรือวงจรสำหรับการส่งข้อมูล หรือปลายทางต่อไป switch (สวิท์ช) อาจจะรวมการทำงานของ router, อุปกรณ์หรือโปรแกรม ที่สามารถค้นหาเส้นทาง หรือกำหนดจุดบนเครือข่ายที่ติดต่อกัน เพื่อให้ส่งข้อมูลไป โดยทั่วไป สวิท์ช เป็นกลไกที่ง่าย และเร็วกว่า router ซึ่งต้องการความรู้เกี่ยวกับเครือ และวิธีการหาเส้นทาง

ความสัมพันธ์แบบจำลอง Open System Interconnecting, สวิท์ช เกี่ยวข้องกับ Layer หรือ Data-Link Layer อย่างไรก็ตาม สวิท์ชรุ่นใหม่ สามารถทำงานต้นเส้นทาง ของเลเยอร์ หรือ Network Layer โดยบางครั้ง switch layer 3 ได้รับการเรียกว่า IP switches

บนเครือข่ายขนาดใหญ่ การเดินทางจากสวิท์ชหนึ่งไปยังตัวอื่นในเครือข่ายเรียกว่า hop เวลาที่สวิท์ชใช้ ในการชี้ถึงการส่งหน่วยข้อมูลเรียกว่า latency ราคาที่จ่ายให้กับความยืดหยุ่น ของสวิท์ชที่ให้กับเครือข่าย คือ latency สวิท์ชที่พบใน backbone และ gateway ของเครือข่าย ที่เครือข่ายหนึ่งใช้ต่อเชื่อมกับเครือข่ายอื่น และระดับเครือข่ายย่อย สำหรับการส่งต่อใกล้กับปลายทาง หรือจุดเริ่มต้น อันแรกเรียกว่า core switches และอันดับหลังเรียกว่า desktop switches

ในเครือข่ายพื้นฐาน สวิท์ช ไม่ต้องการข่าวสารในการส่ง หรือรับภายเครือข่าย ตัวอย่างเช่น เครือข่ายแบบ LAN อาจจะจัดโครงสร้างด้วย todenring หรือการจัดเรียงบัส ในแต่ละปลายทางตรวจแต่ข่าวสาร และอ่านข่าวสารด้วยตำแหน่ง

circuit switching เวอร์ชัน packet switching

เส้นทางของเครือข่ายจะต้องใช้เฉพาะสำหรับภายในกลุ่ม 2 กลุ่มหรือมากกว่า และสวิท์ชสำหรับใช้กับกลุ่มอื่น ประเภทของ switching ที่รู้จักในชื่อ circuit switching และเป็นตัวแทนและเชื่อมต่อเส้นทางอย่างต่อเนื่อง สำหรับภายในกลุ่ม

ปัจจุบัน การส่งข้อมูลส่วนใหญ่ใช้สัญญาณดิจิตอลผ่านเครือข่ายที่ใช้ packet switching การใช้ packet switching ผู้ใช้เครือข่ายทั้งหมดสามารถใช้เส้นทางร่วมกันในเวลาเดียวกัน และเส้นทางเฉพาะ ของหน่วยข้อมูลที่เดินทาง สามารถแปรผันตามเงื่อนไขที่เปลี่ยนใน packet switching การส่ง message จะได้รับการแบ่งเป็น แพ็คเกต ซึ่งมีหน่วยเป็นไบต์ address ของเครือข่ายสำหรับผู้ส่ง และสำหรับปลายทาง ได้รับการเพิ่มอยู่ในแพ็คเกต แต่ละจุดของเครือข่ายจะดูที่แพ็คเกต เพื่อส่งต่อแพ็คเกตใน message เดียวกันอาจจะมีเส้นทางที่ต่างกัน และอาจจะไม่ไปถึงในลำดับเดียวกับ การส่งที่ปลายทาง แพ็คเกตใน message จะได้รับการรวมและประกอบใหญ่เป็น message เหมือนเดิม



strongly-typed
ภาษาโปรแกรม strongly-typed เป็นหนึ่งในแต่ละประเภทของข้อมูล ( เช่น จำนวนเต็ม, ตัวอักษร, เลขฐานสิบหก เป็นต้น) ที่มีการกำหนดไว้ก่อนเป็นส่วนหนึ่งของภาษาโปรแกรม และการกำหนดตัวแปร หรือค่าคงที่ทั้งหมด สำหรับโปรแกรมต้องมีการกำหนดประเภทข้อมูล การปฏิบัติการจะยินยอมเฉพาะ ประเภทข้อมูลที่มีอยู่ ภาษาประเภท compiler บังคับประเภทข้อมูล และการใช้ที่ยอมรับ ข้อได้เปรียบของ strong data type เป็นการบังคับให้กลุ่มของกฎมีความเคร่งครัด และประกันผลลัพธ์ที่แน่นอน ข้อเสียเปรียบ คือ ทำให้ไม่สามารถคิดค้นประเภทข้อมูลไม่ได้คาดไว้ โดยผู้พัฒนาภาษาโปรแกรม และจำกัดความสร้างสรรค์ ให้ใช้เฉพาะประเภทข้อมูลที่มีให้


streaming sound
streaming sound เป็นเสียงที่เล่นเมื่อมาถึง อีกทางเลือกหนึ่ง คือ sound recording (เช่นไฟล์ WAV) ซึ่งจะไม่เริ่มต้นจนกระทั่งไฟล์มาถึงทั้งหมด การสนับสนุน streaming sound ต้องการตัวเล่นแบบ plug-in หรือมากับ browser ผู้นำของผู้ให้ streaming sound ได้แก่ Progressive Networks’ RealAudio และ Macromedia Shockwave for Director (ซึ่งรวมถึงโปรแกรม animation player)


stack
1. TCP/IP ได้กับการอ้างถึงในฐานะ “stack” เป็นการอ้างถึง เลเยอร์ผ่านข้อมูลทั้งหมดที่ปลายของ client และ server ของการแลกเปลี่ยนข้อมูล ภาพที่ชัดเจนของเลเยอร์คล้ายกับ TCP/IP ที่ได้ให้คำอธิบายใน OSI ซึ่งเป็นแบบจำลองอ้างอิงของชั้นในการสื่อสารของเครือข่าย

“stack” บางครั้ง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ที่สนับสนุน เลเยอร์ของ TCP/IP ใน Netscape Handbook กล่าวว่า “เป็นสร้างการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเสร็จเรียบร้อย คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต้องการ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เช่น Netscape plus TCP/IP stack ประกอบด้วย ซอฟต์แวร์ TCP/IP stack (Winsock dynamic tink library) และ ซอฟต์แวร์ driver ของฮาร์ดแวร์ (packet driver) TCP/IP stack มีให้ใน windows รวมถึง shareware stacks”
2. ในโปรแกรม stack เป็นพื้นที่ของข้อมูลหรือ buffer ใช้ในการเก็บคำขอที่ต้องการดูแล IBM Dictionary of computer กล่าว่า stack มักเป็น push-down list หมายความว่า เมื่อคำขอใหม่เข้ามา จะมีผลักคำขอเก่าออกไปในอีกทางหนึ่งของการมอง push-down list หรือ stack คือ เป็นโปรแกรมที่ดึงส่วนประกอบ ต่อไปมาดูแล จากด้านบนของ stack (แตกต่างกับการจัดเรียงแบบ “FIFO” หรือ first-in first-out”)

ไม่มีความคิดเห็น: